อยากพ้นทุกข์ต้องเข้าใจทุกข์แจ่มแจ้ง
ไม่ใช่เอาแต่หนี ยิ่งหนียิ่งเจอ ปัญหาคือไม่รู้ว่ากำลังทุกข์เพราะหนีทุกข์
หนีความทุกข์ไปหาความสุข สนุกสนาน มันหนีไม่พ้นเพราะ
มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนเงาตามตัว เราหนีเงาตัวเองไม่ได้
สิ่งที่ทำได้คือ เผชิญความทุกข์ (เศร้า เบื่อ เหงา อิจฉา เกลียด น้อยใจ ฯลฯ) อย่างตรงไปตรงมา ทำความเข้าใจธรรมชาติของมันจึงจะพ้นจากความทุกข์ได้ จะทำได้ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกที่ตรงเป็นเบื้องต้น(สัมมาทิฐิ) แล้วฝึกฝนดำเนินชีวิตให้สอดคล้องต้องกันกับความรู้ความเข้าใจ
ส่วนใหญ่เรารู้และเข้าใจตามตัวหนังสือ ท่องได้พูดได้ แต่ก็ยังดำเนินชีวิตไม่สอดคล้องต้องกันกับความรู้ความเข้าใจ เช่นอุปมาเรารู้แล้วว่า ยังไงก็ต้องมีเงาตามตัวเรา แต่เผลอ ๆ เราก็ลืม สะดุ้งตกใจกับเงาของตัวเอง เช่นกันกับความเศร้าหรือความทุกข์ใด ๆ ก็ตาม มันมาเป็นคราว ๆ ไม่อยู่ตลอดเวลา เป็นไปตามเหตุปัจจัย (ไม่พยายามอธิบายหาเหตุตอนกำลังเผชิญ) ไล่ก็ไม่ไป หนีก็ไม่พ้น ยิ่งหนียิ่งดิ้นรนก็ยิ่งจมดิ่ง ลากยาว
แต่ทุกครั้งเวลาเป็นทุกข์เศร้าหมอง อยากหาย ไม่อยากทุกข์ เราก็เผลอจ้อง คอยมอง คอยไล่ พยายามดิ้นรนหนีจนเหนื่อย ท้อ และในที่สุดก็ทนไม่ไหว (วิ่งหนีเงาไม่พ้น อยากหนีเลยคอยดูเงาตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ก็เห็นอยู่เรื่อย ๆ สะดุ้งซ้ำแล้วซ้ำอีก) ไม่อยากรับรู้อยากหลับ อยากตายให้พ้น ๆ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาก็เคยผ่านความทุกข์เรื่องร้ายมานับไม่ถ้วน พอเจออีกลืมไปว่ามันเป็นธรรมชาติธรรมดาของชีวิต หลงไปคิดปรุงแต่งบีบคั้น วนเวียน ไม่ปล่อย พยายามปล่อย พยายามผลักก็ไม่ไป
เราจะป้องกันไม่ให้เผลอไม่ให้หลงไปดิ้นรนได้ด้วยการหมั่นฝึกฝนทำไว้ในใจอย่างถูกต้องแยบคายที่เรียกว่า โยนิโสมนสิการ กล่าวคือเตือนตัวเองเสมอ ๆ ว่าอะไรมันก็ไม่เที่ยง ตั้งอยู่ได้ไม่นาน ไม่ใช่ตัวเราของเรา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น ปล่อยให้มันเป็นไปของมัน เปิดใจเข้าใจยอมรับธรรมชาติธรรมดาของมันก่อน ความดิ้นรนบีบคั้นในใจก็จะทุเลาลง เหลือแต่ความทุกข์ตามธรรมชาติล้วน ๆ ที่ไม่ปนด้วยความปรุงแต่งอันเนื่องมาจากความเกลียด ความไม่ชอบไม่พอใจ ถึงตอนนี้ความมั่นคงตั้งมั่นของจิตใจก็กลับคืนมา มีความกล้าหาญ พร้อมเผชิญความทุกข์อย่างตรงไปตรงมา รับรู้ความทุกข์ตามความเป็นจริงว่า มันเป็นสิ่ง ๆ หนึ่งที่จรผ่านเข้ามา เหมือนก้อนเมฆ ผ่านเข้ามาในท้องฟ้า มันเป็นไปตามธรรมชาติ ใจเราเหมือนท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆลอยอยู่ ความมั่นคงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น คลายจากความดิ้นรน ความต้องการหนีความทุกข์หายไป เกิดเป็นความสงบมั่นคงภายใน ไม่ขึ้นกับความทุกข์นั้นจะหายไปหรือไม่
นี่จึงเรียกพ้นจากทุกข์